เช็กอิน 50 ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ไปเช้า-เย็นกลับสบาย ๆ
รวมสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ แบบไปเช้า-เย็นกลับ พักผ่อนชิล ๆ ในวันที่มีเวลาน้อย แถมยังไม่เหนื่อยกับการเดินทางด้วยนะ1. วัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พระปรางค์ศรีรัตนมหาธาตุ เป็นปรางค์ประธานที่ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส แต่ละมุมของฐานมีปรางค์ประจำทิศตั้งอยู่ด้วย ซึ่งเป็นลักษณะสถาปัตยกรรมแบบสมัยอยุธยาตอนต้น
วัดไชยวัฒนาราม เปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ในช่วงเวลา 19.30-21.00 น. จะมีการเปิดไฟส่องไปยังโบราณสถานภายในวัด บรรยากาศสวยงามมาก
2. วัดพุทไธศวรรย์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
วัดพุทไธศวรรย์ สามารถเข้าเที่ยวชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
3. พระราชวังบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พระราชวังบางปะอิน เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. (โปรดแต่งกายสุภาพ) ค่าเข้าชมเด็ก/นักเรียน/นักศึกษา ราคา 20 บาท, ผู้ใหญ่ ราคา 30 บาท และชาวต่างชาติ ราคา 100 บาท สอบถามรายละเอียดได้ที่ สำนักพระราชวังบางปะอิน โทรศัพท์ 035 261 044, 035 261 549, 035 261 673
4. ตลาดน้ำอโยธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ภาพจาก Proud / shutterstock.com
นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศที่โอบล้อมด้วยสายน้ำเย็นฉ่ำ มีระเบียงริมน้ำให้นักท่องเที่ยวไว้นั่งหย่อนขาสัมผัสสายน้ำเย็นชื่นใจ หลากหลายด้วยเมนูอาหารอร่อย ๆ ทั้งของคาว-ของหวาน เช่น ผัดไทย, ทอดมัน, ก๋วยเตี๋ยว, น้ำพริกปลาทู, ส้มตำรสเด็ด, ขนมครกไข่นกกระทา, ถุงทอง, หมูระเบิด, ไก่ระเบิด, หอยครกกระทะร้อน และยำต่าง ๆ เป็นต้น รวมถึงการได้ชมการแสดงประวัติศาสตร์ที่มีให้ชมทุกวัน
ตลาดน้ำอโยธยา เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ayothayafloatingmarket.in.th
5. วัดพระงาม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ช่วงเวลาที่เหมาะจะถ่ายรูปพระอาทิตย์ลอดซุ้มประตูคือช่วงเวลา 17.00-18.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก วัดพระงาม"ประตูแห่งกาลเวลา "คลองสระบัว
6. ชมเฌย จังหวัดนนทบุรี
เปิดให้บริการวันอังคาร-อาทิตย์ วันอังคาร-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-17.30 น. วันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-18.30 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ชมเฌย
7. ตลาดน้ำวัดตะเคียน จังหวัดนนทบุรี
ตลาดน้ำวัดตะเคียน เปิดให้บริการทุกวัน (วันธรรมดาร้านค้าจะเปิดเพียงบางร้าน) ตั้งแต่เวลา 09.30-15.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ตลาดน้ำวัดตะเคียน
8. ชุมชนบนเกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
ที่สำคัญยังมีร้านกาแฟ และร้านอาหารริมแม่น้ำบรรยากาศชิล ๆ ไม่น้อยเลยล่ะ โดยนักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมรอบ ๆ เกาะได้ด้วยการขี่จักรยาน หรือถ้าใครอยากนั่งเรือเที่ยวชมรอบ ๆ เกาะ ไปเยี่ยมชมบ้านขนมไทย วัดต่าง ๆ และศูนย์การเรียนรู้ผ้าบาติกก็ได้เช่นกัน เกาะเกร็ดในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะมีร้านค้าเปิดให้บริการมากกว่าวันธรรมดา จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวมากกว่าปกติ
9. สถานตากอากาศบางปู จังหวัดสมุทรปราการ
บางปูได้ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อปี พ.ศ. 2480 ตามดำริของ จอมพลแปลก พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ต่อมาจึงได้สร้างสะพานขึ้นมา ชื่อ "สะพานสุขตา" เปิดให้บริการแก่ประชาชนทั่วไป และกลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญของบางปู ซึ่งในเวลาต่อมา มีการสร้างเป็นอาคารขึ้นมาในปลายสะพาน ชื่อ "ศาลาสุขใจ" โดยเปิดบริการขายอาหารและเครื่องดื่ม ทั้งยังเป็นที่นัดพบของผู้สูงอายุ สำหรับกิจกรรมเต้นลีลาศ ทุกวันเสาร์อีกด้วย
10. บางกะเจ้า จังหวัดสมุทรปราการ
สวนสาธารณะและสวนพฤกษชาติศรีนครเขื่อนขันธ์ เปิดให้เข้าตั้งแต่เวลา 05.00-19.00 น. ห้ามนำรถยนต์เข้า แต่ที่ซุ้มขายน้ำบริเวณหน้าสวนจะมีจักรยานให้เช่า
11. ตลาดบางน้ำผึ้ง จังหวัดสมุทรปราการ
ตลาดบางน้ำผึ้ง เปิดบริการเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ที่ติดกับวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.00-14.00 น.
12. ทุ่งทานตะวัน จังหวัดสระบุรี
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอยุธยา โทรศัพท์ 0 3524 6076
13. ตลาดน้ำลาวเวียง จังหวัดสระบุรี
ตลาดน้ำลาวเวียง เปิดทุกวันเสาร์–อาทิตย์ เวลา 08.00-14.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ตลาดน้ำลาวเวียง วัดตะเฆ่ อ.เสาไห้ จ.สระบุรี
14. สวนบิ๊กเต้ จังหวัดสระบุรี
ภาพจาก TAN KHWANSIRIKUN / shutterstock.com
แหล่งปลูกเบญจมาศที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่อำเภอมวกเหล็ก ที่นี่เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเยี่ยมชมดอกเบญจมาศสวย ๆ โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไกลไปชมกันที่ภาคเหนือ ท่ามกลางวิวทิวทัศน์ของหุบเขาเขียวขจี ที่สำคัญดอกเบญจมาศเหล่านี้บานรอให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมกันตลอดทั้งปีสวนบิ๊กเต้ เปิดให้เที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.30 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์ 081 878 4569 หรือ เฟซบุ๊ก BigTae Garden สวนบิ๊กเต้
15. น้ำตกดงพญาเย็น จังหวัดสระบุรี
ตั้งอยู่ที่ตำบลมวกเหล็ก อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี อยู่ห่างจากน้ำตกเจ็ดสาวน้อยประมาณ 1.5 กิโลเมตร เกิดจากลำห้วยมวกเหล็กมีลักษณะเป็นน้ำตกขนาดเล็ก มีชั้นเตี้ย ๆ ลดหลั่นกันไป มีแอ่งน้ำตื้น ๆ ให้ลงเล่นน้ำสุดเย็นฉ่ำเพื่อคลายร้อนกันตลอดทั้งปี ทั้งสองฟากฝั่งของน้ำตกมีต้นไม้นานาพรรณให้ความร่มรื่น อากาศเย็นสบายสดชื่น ชาวบ้านทำแคร่ไม้ไผ่ริมน้ำให้นักท่องเที่ยวได้มานั่งพักผ่อน ทั้งนี้มีบริการร้านอาหารด้วย
16. วัดม่วง จังหวัดอ่างทอง
ตั้งอยู่ที่ตำบลหัวสะพาน อำเภอวิเศษชัยชาญ เดิมทีเป็นวัดร้าง สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ก่อนจะถูกทำลายไปเมื่อครั้งเสียกรุง วัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกนามว่า "พระพุทธมหานวมินทรศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ" หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "หลวงพ่อใหญ่" โดยพระพุทธรูปมีขนาดหน้าตักกว้างประมาณ 62 เมตร และสูงประมาณ 93 เมตร นอกจากนี้ภายในวัดยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ พระอุโบสถที่มีกำแพงเป็นกลีบดอกบัวสีชมพูสวยงาม, วิหารแก้ว, แดนนรก เป็นต้น
17. วัดขุนอินทประมูล จังหวัดอ่างทอง
นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดยังมีซากโบราณสถานวิหารหลวงพ่อขาว ซึ่งปัจจุบันเหลือเพียงแค่ฐาน ผนังบางส่วนและองค์พระพุทธรูป และในศาลาอเนกประสงค์ มีศาลรูปปั้นขุนอินทประมูลและโครงกระดูกมนุษย์ ขุดพบในเขตวิหารพระพุทธไสยาสน์เมื่อปี พ.ศ. 2541 ลักษณะนอนคว่ำหน้า มือและเท้ามัดไพล่อยู่ด้านหลัง เชื่อกันว่าเป็นโครงกระดูกขุนอินทประมูลแต่บ้างก็ว่าไม่ใช่
18. ตลาดน้ำสามโก้ จังหวัดอ่างทอง
ตลาดน้ำเปิดใหม่ของจังหวัดอ่างทอง ตั้งอยู่บริเวณวัดสามโก้ อำเภอสามโก้ บรรยากาศบ้าน ๆ แบบวิถีชุมชน เรียบง่ายและเป็นกันเอง แต่เสน่ห์ที่แสนน่ารักของตลาดสามโก้ นั่นคือภาชนะต่าง ๆ ที่ใช้ในตลาดทำมาจากธรรมชาติ และที่สำคัญของกินและของใช้มาจากคนในอำเภอสามโก้จริง ๆ รวมถึงยังมีกิจกรรมต่าง ๆ จำหน่ายของที่ระลึกน่ารัก ๆ ท่ามกลางบรรยากาศตลาดแบบชิล ๆ ยิ่งเดินก็ยิ่งเพลิน ใครมาเที่ยวอ่างทอง ลองแวะมาเช็กอินกันได้เลย
ตลาดน้ำสามโก้ เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ตลาดน้ำสามโก้
19. ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน จังหวัดสิงห์บุรี
ภาพจาก Tunyanat jamonjureekul / shutterstock.com
ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน ตั้งอยู่ภายในวัดโพธิ์เก้าต้น ตำบลบางระจัน อำเภอค่ายบางระจัน บรรยากาศร่มรื่นน่าเที่ยวชม มีการจัดแต่งซุ้มจำหน่ายสินค้าด้วยวัสดุธรรมชาติในรูปแบบพื้นบ้าน ให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลาย ชาวบ้านจะแต่งตัวย้อนยุคมานั่งจำหน่ายสินค้า ทำให้บรรยากาศยิ่งคล้ายกับตลาดในยุคโบราณ สินค้าที่ชาวบ้านนำมาจำหน่ายก็จะเป็นอาหารท้องถิ่น ขนมโบราณที่หากินยาก ผลิตภัณฑ์ทำมือ รวมไปถึงพืชผักและผลไม้สด ๆ จากไร่ของชาวบ้าน และถ้าใครอยากจะมาเที่ยวให้อินกับบรรยากาศมากขึ้น ก็สามารถที่จะแต่งกายด้วยชุดไทยย้อนยุคมาเที่ยวกันได้จากบ้านเลยค่ะ หรือจะมาเช่าชุดไทยที่นี่ก็ได้ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน เปิดให้บริการวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่อยู่ติดกับเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น. ไม่มีค่าเข้าชม สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน
20. โบสถ์วัดไทร จังหวัดสิงห์บุรี
ภาพจาก Medtech THAI STUDIO LAB 249 / shutterstock.com
สามารถสอบถามข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลชีน้ำร้าย โทรศัพท์ 0 3658 5240-2
21. วัดโกรกกราก จังหวัดสมุทรสาคร
ภาพจาก wasanajai / shutterstock.com
การสวมแว่นตาดำของพระพุทธรูปองค์นี้มีตำนานเล่าว่า ในสมัยก่อนที่การแพทย์ยังไม่เจริญนัก ได้เกิดโรคตาแดงระบาด ชาวบ้านจึงได้พากันมาบนบานศาลกล่าวว่าถ้าตาหายแดงเมื่อไหร่จะนำแผ่นทองมาปิดที่ดวงตาขององค์พระศิลาแลง ปรากฏว่าชาวบ้านที่เป็นโรคตาแดงพากันหายจนเกือบหมดทั้งหมู่บ้าน จึงได้มีการนำแผ่นทองมาปิดที่ดวงตาของพระศิลาแลงเต็มไปหมด ต่อมาพระครูธรรมสาคร ญาณวัฑฒโน หรือหลวงปู่กรับ หลังจากได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาส ท่านได้หาอุบายเพื่อไม่ให้ญาติโยมปิดทองที่ตาองค์พระอีกต่อไป จึงได้นำแว่นดำมาใส่ให้พระศิลาแลง หลังจากนั้นเป็นต้นมาชาวบ้านเลยนำแว่นตามาถวายแทนการปิดทองที่ดวงตาพระพุทธรูปองค์นี้ไปโดยปริยาย และถือเป็นประเพณีปฏิบัติสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
22. วัดท่าไม้ จังหวัดสมุทรสาคร
ตั้งอยู่ติดแม่น้ำท่าจีน ถนนเศรษฐกิจ 1 ซอย 8 ตำบลท่าไม้ อำเภอกระทุ่มแบน จากสำนักสงฆ์สู่วัดที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของจังหวัดสมุทรสาคร ภายในมีสิ่งที่น่าสนใจ ได้แก่ พระอุโบสถที่มีพญามารมุจรินทร์ 7 เศียร เป็นซุ้มสีมาบูรพาอยู่ด้านหน้า ภายในมีพระพุทธชินราชจำลองขนาดหน้าตัก 69 นิ้ว ประดิษฐานเป็นพระประธาน, ศาลาการเปรียญที่มีพระพุทธหิรัญราชเป็นพระประธาน, ศาลาบูรพาจารย์ อันเป็นที่ประดิษฐานพระเกจิดัง 4 รูป ได้แก่ หลวงพ่อทวด สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี พระไพโรจน์วุฒาจารย์และหลวงพ่อยี หรือเทียนพรรษาเล่มแรกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งวัดฐานได้ 44 นิ้ว สูง 4 เมตร 9 นิ้ว เป็นต้น
23. ตลาดริมคลองพ่อพันท้ายนรสิงห์ จังหวัดสมุทรสาคร
ที่เที่ยวสมุทรสาครน่าสนใจ ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตชุมชน มากมายด้วยสินค้า บรรยากาศก็สุดชิล ตลาดแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมือง ภายในตลาดละลานตาด้วยอาหาร ขนมไทย อาหารพื้นเมือง และผลิตภัณฑ์ OTOP ของจังหวัด แน่นอนเลยว่าต้องไม่พลาดแวะมาชิม ชม และช้อปกับบรรยากาศชิล ๆ ริมคลอง ร่มรื่นด้วยต้นไม้สีเขียวที่ดูแล้วเพลินตา นั่งแล้วสบายใจ นอกจากนี้ยังสามารถไปสักการะศาลเจ้าพ่อพันท้ายนรสิงห์ ทำบุญปล่อยปลา และเดินชมป่าชายเลนได้ด้วย
ตลาดริมคลองพ่อพันท้ายนรสิงห์ เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เดินเล่นทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.00-17.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ตลาดน้ำ พันท้ายนรสิงห์-ริมคลองสนามไชยPhanthai Norasing Floating Market
24. วัดเพชรสมุทรวรวิหาร จังหวัดสมุทรสงคราม
วัดเพชรสมุทรวรวิหาร หรือวัดบ้านแหลม ตั้งอยู่บริเวณถนนเพชรสมุทร ในเขตอำเภอแม่กลอง เป็นวัดสำคัญและมีชื่อเสียงของจังหวัดมาเป็นเวลานาน สร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าปราสาททองแห่งกรุงศรีอยุธยา ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานของ "หลวงพ่อวัดบ้านแหลม" ที่ถือได้ว่าเป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองจังหวัดสมุทรสงคราม มีความเชื่อเล่าขานกันว่า ใครก็ตามที่ได้มีโอกาสมาสักการะและปิดทองที่องค์พระพุทธรูป จะบังเกิดความสิริมงคล และสมความปรารถนาที่ตั้งใจเอาไว้
ทุก ๆ ปีจะมีจะมีการจัดงานปิดทององค์หลวงพ่อ 3 ครั้ง ซึ่งจะจัดขึ้นช่วงเดือนเมษายน ตรงกับเทศกาลสงกรานต์ของชาวไทยและชาวรามัญ งานสารทเดือน 11 และช่วงเทศกาลตรุษจีน ใครผ่านไปผ่านมาอย่าลืมแวะเข้ามาสักการะกันได้
25. วัดบางกุ้ง จังหวัดสมุทรสงคราม
ภาพจาก Blanscape / shutterstock.com
ตั้งอยู่ที่อำเภอบางคนที เป็นวัดเก่าแก่ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย เช่น โบสถ์ปรกโพธิ์ โบสถ์เก่าแก่ที่ปัจจุบันถูกปกคลุมด้วยรากไม้ใหญ่ ทั้งโพธิ์ ไทร ไกร และกร่าง เป็นสถานที่ท่องเที่ยว Unseen อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดสมุทรสงคราม ภายในประดิษฐานพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า "หลวงพ่อโบสถ์น้อย" หรือ "หลวงพ่อดำ" นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังจะได้เพลิดเพลินชมความสวยงามของภาพจิตรกรรมฝาผนังปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา ทางด้านหลังของบริเวณวัดมีศาลที่ชื่อว่า "ศาลนางไม้เจ้าจอม" อันเป็นที่สักการะของบุคคลทั่วไป ส่วนบริเวณหน้าวัดด้านติดกับแม่น้ำแม่กลอง เป็นที่อยู่อาศัยของปลาจำนวนมาก จนได้ชื่อว่า "วังมัจฉา" มาเที่ยววัดนี้วัดเดียวรับรองว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
26. ดอนหอยหลอด จังหวัดสมุทรสงคราม
หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสมุทรสงคราม ตั้งอยู่ปากแม่น้ำแม่กลอง มีอาณาเขตกว้างประมาณ 3 กิโลเมตร ยื่นลึกออกไปยังทะเล เกิดเป็นตะกอนทับถมจากปากแม่น้ำผสมกับตะกอนจากทะเล จนเป็นสันดอนที่มีลักษณะเด่นที่พบได้ยากในเมืองไทย อีกทั้งยังเป็นแหล่งที่อยู่ของหอยนานาชนิด แต่พบว่าหอยหลอดมีจำนวนมากที่สุด
ช่วงที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวดอนหอยหลอดมากที่สุดคือ ประมาณเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ซึ่งเป็นเวลาที่น้ำทะเลลดลงนานกว่าช่วงอื่น จนสามารถเห็นสันดอนที่โผล่พ้นน้ำออกมา โดยรอบบริเวณดอนหอยหลอดมีร้านค้าร้านอาหารให้ไว้บริการมากมาย นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรับลมเย็น ๆ เพลิน ๆ กินอาหารอร่อย ๆ แล้วหลับเอาแรงสักงีบก็ยังได้
27. ตลาดน้ำอัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
ภาพจาก somchaiito / shutterstock.com
เปิดบริการวันศุกร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่ช่วงเช้าถึงประมาณ 20.00 น. (แนะนำให้มาช่วงเวลา 15.00 น. เพราะเป็นช่วงที่ของออกมาขายเยอะ)
28. คลองโคน จังหวัดสมุทรสงคราม
ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินไปกับการกินอาหารทะเลสดใหม่ การนั่งเรือเที่ยวชมฟาร์มหอย ป่าชายเลน และวิถีชีวิตสองฝั่งคลอง การเก็บหอยแครงกลางทะเล การเล่นสกีโคลนสุดสนุก พร้อมทั้งการนอนโฮมสเตย์สุดอบอุ่นของชาวบ้านในราคาเบา ๆ เป็นการเที่ยวไปเช้า-เย็นกลับได้สบาย ๆ
29. วัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา
สำหรับสถานที่ประดิษฐานหลวงพ่อโสธร จะเปิดให้เข้าชมเฉพาะในส่วนของวิหารจำลอง เนื่องจากทางคณะกรรมการวัดมีมติให้รื้อพระอุโบสถหลังเก่า ซึ่งมีสภาพทรุดโทรมและคับแคบ แล้วสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ พร้อมกับอัญเชิญพระพุทธโสธรองค์จำลองไปประดิษฐานไว้เพื่อเปิดให้ประชาชนได้นมัสการตามปกติ
30. วัดสมานรัตนาราม จังหวัดฉะเชิงเทรา
ภาพจาก suronin / shutterstock.com
31. ตลาดเก่าคลองสวน 100 ปี จังหวัดฉะเชิงเทรา
ตลาดสุดคลาสสิก ตั้งอยู่ในเขต 2 จังหวัด (สมุทรปราการ-ฉะเชิงเทรา) ตำบลเทพราช อำเภอบ้านโพธิ์ มีสะพานไม้เล็ก ๆ ข้ามคลองประเวศบุรีรมย์เป็นเขตแดน ไม่ว่าใครที่มาเที่ยวที่นี่ เป็นต้องไม่พลาด "เป็ดพะโล้" ไม่ว่าจะเป็น ก๋วยเตี๋ยวเป็ดพะโล้ หรือเป็ดพะโล้เป็นตัว ๆ ขอบอกได้คำเดียวว่าอร่อยจริง ๆ นอกจากนี้ยังมีของกินอร่อยขึ้นชื่ออีกมากมาย เช่น ไข่เค็ม, กุนเชียง, แคบหมู, ขนมเปี๊ยะ หรือจะเป็นพวกเบเกอรี่ ก็มีให้เลือกเอาไว้เป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้าน
ตลาดเก่าคลองสวน 100 ปี เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ตลาดเก่าคลองสวน100ปี ฉะเชิงเทรา
32. วัดพราหมณี จังหวัดนครนายก
วัดเก่าแก่แห่งหนึ่งในจังหวัดนครนายก ตั้งอยู่ที่ตำบลสาริกา ทางไปน้ำตกสาริกา-นางรอง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์มงคลที่ใครผ่านไปผ่านมาต้องแวะเข้ามากราบไหว้ นั่นก็คือพระพุทธรูปเก่าแก่ทรงเครื่องดอกพิกุล พระโอษฐ์แดง หรือ "พระพุทธรูปปากแดง" ซึ่งเป็นที่เคารพของชาวไทยและต่างชาติเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่สำคัญ โดยสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพญี่ปุ่นได้เลือกบริเวณที่ตั้งของวัดเป็นจุดพักทัพของกองพันทหารที่ 37 ซึ่งมีจุดหมายที่จะไปรวมพลกันที่บริเวณเขาชะโงก ทั้งนี้ได้ค้นพบโครงกระดูกของทหารญี่ปุ่นใกล้กับวัดพราหมณี ดังนั้นสมาคมทหารสหายสงครามกองพลญี่ปุ่นที่ 37 จึงได้สร้างอนุสรณ์สถานไว้เพื่อเป็นที่ระลึกถึงทหารญี่ปุ่น
33. เขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก
ภาพจาก Watcharin Tadsana / shutterstock.com
นอกจากในแง่ประโยชน์เชิงเกษตรกรรม อุปโภค บริโภค และเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาแล้วนั้น ปัจจุบันที่นี่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดนครนายก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาที่นี่มักติดใจกับความสวยงามของทิวทัศน์สวย ๆ เมืองนครนายกด้านหลังเขื่อน หรือจะเดินเล่นรับลมชิล ๆ ถ่ายรูปก็ได้ตามแต่อัธยาศัย ทั้งยังมีร้านค้า ร้านอาหารไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวอยู่โดยรอบบริเวณเขื่อนอีกด้วย
34. อุทยานวังตะไคร้ จังหวัดนครนายก
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมผจญภัยต่าง ๆ ไว้เอาใจนักท่องเที่ยวที่ชอบแอดเวนเจอร์อีกด้วย ส่วนใครที่อยากจะซึมซับบรรยากาศนี้นาน ๆ ที่นี่ก็มีบริการบ้านพักที่เรียบง่าย แต่แฝงไว้ด้วยเสน่ห์ความเป็นบ้านไทยโบราณ ภายในบ้านเย็นสบาย ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่นั่นเอง
35. เขาช่องลม จังหวัดนครนายก
เขาช่องลม ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังของเขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก สถานที่แห่งนี้ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวมากนัก ธรรมชาติที่นี่จึงยังสมบูรณ์ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวสายกรีน ที่อยากมาสัมผัสความเขียวขจีของภูเขาและลำธารไหลเย็นกันให้ชื่นฉ่ำหัวใจ
การมาเที่ยวที่ช่องเขาลมนักท่องเที่ยวจะต้องนั่งเรือ (โดยมีจุดบริการที่เขื่อนขุนด่านปราการชล) ระยะทางจากเขื่อนมาถึงเขาช่องลม ใช้เวลาประมาณ 15 นาที โดยเรือจะแวะจุดท่องเที่ยวทั้งหมดด้วยกัน 4 จุด ได้แก่ น้ำตกผางามงอน, น้ำตกคลองคราม, น้ำตกต้นน้ำ และน้ำตกช่องลม เป็นต้น
36. ตลาดเท่งเถิดเทิง ไนท์วินเทจ จังหวัดนครนายก
ตลาดเท่งเถิดเทิง ไนท์วินเทจ ตั้งอยู่บริเวณริมถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3049 ตำบลสาริกา อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก มีลักษณะเป็นตลาดกลางคืน ออกแบบอย่างสวยงามในบรรยากาศย้อนยุค เต็มไปด้วยร้านค้าต่าง ๆ มากมาย ซึ่งมีทั้งร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่น, สินค้าแฮนด์เมด, กระเป๋าแฟชั่น, เครื่องประดับ, รองเท้าแฟชั่น, เคสโทรศัพท์, อุปกรณ์เกี่ยวกับโทรศัพท์, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, อาหารท้องถิ่น, ขนมหวาน, ร้านกาแฟ และอื่น ๆ อีกเพียบ
โดยปกติแล้วตลาดเท่งเถิดเทิง ไนท์วินเทจ จะเปิดให้บริการเฉพาะวันศุกร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันศุกร์ เปิดเวลา 17.00-21.30 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ เปิดเวลา 17.00-23.00 น. สามารถเช็กตารางวันเปิดให้บริการได้ที่ เฟซบุ๊ก ตลาดเท่งเถิดเทิง-ไนท์วินเทจ
39. วัดโบสถ์ จังหวัดปทุมธานี
ภาพจาก Nokkapood1977 / shutterstock.com
ส่วนไฮไลต์สำคัญของวัดแห่งนี้ คือ "รูปปั้นเหมือนของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)" องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีความสูงถึง 28 เมตร และมีนักท่องเที่ยวนิยมกราบไหว้และมาสักการบูชาเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมี "พระแสงอาญาสิทธิ์" ของเก่าแก่จากรามัญ และช้างสี่เศียร ที่ใช้ติดตั้งประดับหัวเสาอายุ 150 ปี สร้างด้วยทองสำริดจัดแสดงให้ชมภายในวัดอีกด้วย
40. ตลาดร้อยปีระแหง จังหวัดปทุมธานี
ภาพจาก Sombat Muycheen / shutterstock.com
ตั้งอยู่ที่ริมคลองระแหง อำเภอลาดหลุมแก้ว เป็นตลาดโบราณริมน้ำอายุ 100 ปี ภายในเป็นห้องแถวที่สร้างด้วยไม้ติดต่อกัน เกิดจากการที่ผู้คนสมัยก่อนสัญจรทางเรือและทางรถไฟ โดยมีทางรถไฟสายแรก คือ สายตลาดระแหง-บางบัวทอง มาสิ้นสุดที่โรงเรียนวรพงษ์ ต่อมาการคมนาคมเจริญขึ้น มีถนนผ่านหน้าอำเภอ ผู้คนก็หันมาสัญจรทางรถยนต์กัน กิจการรถไฟก็ล้มเลิกไป แต่ยังคงเหลือตลาดเอาไว้ให้เป็นอนุสรณ์อยู่จนทุกวันนี้
นอกจากนี้ชาวบ้านที่อยู่บริเวณตลาดระแหงยังมีการอนุรักษ์วิถีชีวิตริมคลอง และสถาปัตยกรรมบ้านเรือนไม้หลังคาจั่ว อีกทั้งยังมีการจำหน่ายสินค้าเกษตร, ร้านยาจีนและยาแผนโบราณ, ร้านอาหาร, ร้านตัดผม รวมทั้งมีศาลเจ้าและโรงงิ้วภายในชุมชนอีกด้วย ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ตลาดระแหง ปทุมธานี
41. ตลาดอิงน้ำสามโคก จังหวัดปทุมธานี
ตลาดบรรยากาศน่ารัก มีของกินให้เลือกซื้อมากมาย ตามแบบวิถีชาวบ้านที่เรียบง่าย ตั้งอยู่ที่ตำบลบางเตย อำเภอสามโคก เสน่ห์ของตลาดแห่งนี้เห็นจะอยู่ที่ความเรียบง่าย ความเป็นกันเองของชาวบ้าน ที่ยังดำเนินวิถีชีวิตคู่ไปกับแม่น้ำลำคลอง ที่ยังคงความสวยงามของธรรมชาติ นักท่องเที่ยวจะได้เดินเล่นชมตลาดเก่าดั้งเดิม พ่อค้าแม่ขายที่พายเรือมาขายของ ให้นักท่องเที่ยวอย่างเราได้เลือกซื้อกันเต็มอิ่ม รวมถึงยังได้สัมผัสความหลากหลายของกลุ่มชาติพันธุ์ เช่น ไทยรามัญ ไทยจีน และไทยมุสลิม เป็นต้น ที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานอาศัยอยู่เป็นเวลานาน จนกลายเป็นเสน่ห์ของตลาดอิงน้ำสามโคก
ตลาดแห่งนี้เปิดทุกวันศุกร์-อาทิตย์ แนะนำว่าให้มาช่วงเวลา 09.00-16.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ตลาดอิงน้ำสามโคก ชุมชนตลาดเก่าบางเตย
42. พระราชวังสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม
43. ตลาดบางหลวง ร.ศ. 122 จังหวัดนครปฐม
ตลาดบางหลวง ร.ศ. 122 ตั้งอยู่ที่ตำบลบางหลวง อำเภอบางเลน เป็นตลาดเก่าแก่อายุมากกว่า 100 ปี อยู่ติดกับริมแม่น้ำท่าจีน มีลักษณะเป็นชุมชนชาวจีน บ้านเรือนต่าง ๆ จะเป็นเรือนห้องแถวไม้เก่าผสมผสานสไตล์ไทยและจีน ชาวบ้านในชุมชนยังคงใช้ชีวิตกันแบบเรียบง่าย บ้านไหนเคยเป็นร้านค้าก็จะเปิดขายของกันตามปกติ เราจะได้เห็นร้านค้าแบบโบราณ ทั้งร้านตัดผม ร้านเสริมสวย ร้านขายยา ร้านขายกาแฟ ร้านขายอาหาร
แนะนำให้มาเที่ยวช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ เพราะร้านค้าต่าง ๆ จะเปิดขายกันอย่างคึกคัก บรรยากาศเหมือนย้อนกลับไปอยู่ในช่วงสมัยก่อนเลยทีเดียวเชียว ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ตลาดบางหลวง ร.ศ.122
44. คลองมหาสวัสดิ์ จังหวัดนครปฐม
ภาพจาก Kanjanee Chaisin / shutterstock.com
คลองเล็ก ๆ ที่ไหลผ่านตำบลมหาสวัสดิ์ อำเภอพุทธมณฑล ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้นั่งเรือชมความสวยงามของบ้านเรือนริมน้ำและวิถีชีวิตสุดเรียบง่ายของชาวบ้านในชุมชนทั้งสองฟากฝั่งคลอง ไฮไลต์ของที่นี่อยู่ที่นาบัว ชาวบ้านจะปลูกบัวไว้มากมายเพื่อจำหน่าย พอถึงฤดูกาลที่ดอกบัวบาน ทั้งท้องทุ่งนาก็จะกลายเป็นสีชมพูหวาน บรรยากาศสวยงามมาก ๆ นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถมาติดต่อล่องเรือชมคลองมหาสวัสดิ์และนาบัวได้ที่ วัดสุวรรณาราม ตำบลมหาสวัสดิ์ อำเภอพุทธมณฑล45. เถ้าฮงไถ่ จังหวัดราชบุรี
โรงงานเซรามิกเก่าแก่ของจังหวัดราชบุรี ที่ได้กลายมาเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ เถ้าฮงไถ่ ตั้งอยู่ริมถนนเจดีย์หัก ตำบลเจดีย์หัก อำเภอเมืองราชบุรี บริเวณด้านหน้าของโรงงานถูกแต่งแต้มด้วยผลงานเซรามิกรูปทรงทันสมัยและสีสันสดใส มีร้านกาแฟเล็ก ๆ ให้ได้นั่งพักผ่อน เดินเข้าไปด้านในจะเป็นพื้นที่โรงงานที่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าเที่ยวชม โดยสามารถเดินตามรอยเท้าน้องหมาได้เลย
เถ้าฮงไถ่ เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก Tao Hong Tai Ceramics Factory
46. ตลาดน้ำหลักห้า จังหวัดราชบุรี
ตลาดน้ำที่ตั้งระหว่างรอยต่อ 2 จังหวัด คืออำเภอบ้านแพ้ว จังหวดสมุทรสาคร และอำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี ในอดีตตลาดแห่งนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก คึกคักไปด้วยพ่อค้าแม่ขายที่พายเรือเข้ามาขายของกันอย่างคึกคัก ปัจจุบันได้รับการฟื้นฟูให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวจากความร่วมมือของชาวบ้านและชุมชน ทำให้ตลาดน้ำแห่งนี้ ฟื้นกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ทั้งนักท่องเที่ยวยังได้สัมผัสบรรยากาศเก่า ๆ ชมข้าวของเครื่องใช้โบราณ เพลิดเพลินไปกับอาหารท้องถิ่น และชมวิถีชีวิตริมคลองแบบชิล ๆ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ตลาดน้ำหลักห้า
47. ตลาดสามชุกร้อยปี จังหวัดสุพรรณบุรี
ภาพจาก Vassamon Anansukkasem / shutterstock.com
นอกจากนี้ยังมีจุดท่องเที่ยวสำคัญ ๆ ให้เยี่ยมชมด้วย คือ "พิพิธภัณฑ์บ้านขุนจำนงจีนารักษ์" บ้านไม้เก่าแก่ มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ด้านในจัดแสดงเกี่ยวกับความสำคัญของลุ่มแม่น้ำท่าจีน ประวัติความเป็นมาของเมืองสามชุกและประวัติของบ้าน เดินเที่ยวชมกันได้แบบเพลิน ๆ เลยล่ะ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00 น. เป็นต้นไป
48. นาเฮียใช้ ศูนย์เรียนรู้วิถีชีวิตและจิตวิญญาณชาวนาไทย จังหวัดสุพรรณบุรี
ภาพจาก Supavadee butradee / shutterstock.com
แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านโพธิ์ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี ที่นี่ได้มีการจัดสรรพื้นที่นาข้าวธรรมดาให้มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม ร่มรื่น เหมาะแก่การมาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ บางช่วงก็มีการปลูกข้าวในนาข้าวให้มีรูปร่างสวยงามแปลกตาเป็นรูปต่าง ๆ ซึ่งหากมาเป็นหมู่คณะ ก็จะมีการจัดกิจกรรมตามรอยวิถีชีวิตชาวนาให้ได้สนุกสนานกันด้วย นอกจากนี้ภายในยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ เรือนศูนย์รวมดวงใจไทยทั้งชาติ, เรือนพระแม่โพสพ, เรือนหนังสือพระราชกรณียกิจและเรือนหนังสือข้าว, เรือนวิถีชีวิตชาวนาไทยในอดีต, หอเตือนภัยชาวนา, ร้านโชห่วยหรือร้านขายของในอดีต, อุโมงค์โรค แมลง ข้าววัชพืช และวัชพืชข้าว, ร้านกาแฟสดเฮียใช้ เป็นต้น นาเฮียใช้ ศูนย์เรียนรู้วิถีชีวิตและจิตวิญญาณชาวนาไทย เปิดทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ศูนย์เรียนรู้วิถีชีวิตและจิตวิญญาณชาวนาไทย - นาเฮียใช้
49. ทุ่งทานตะวัน จังหวัดลพบุรี
ภาพจาก lopburi.doae.go.th
โดยทุ่งทานตะวันในแต่ละพื้นที่จะบานในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน ดังนั้นนักท่องเที่ยวอาจจำเป็นที่จะต้องวางแผนการเดินทางกันสักนิด ไม่อย่างนั้นอาจไปเก้อ เพราะดอกทานตะวันในพื้นที่นั้นร่วงโรยไปแล้วนั่นเอง แต่ส่วนใหญ่พื้นที่ทุ่งทานตะวันจะปลูกเป็นไร่ติด ๆ กัน รับรองว่าคุณจะได้ถ่ายรูปกับดอกทานตะวันสวย ๆ อย่างแน่นอน ทั้งนี้ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ lopburi.doae.go.th หรือสอบถามได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพระนครศรีอยุธยา โทรศัพท์ 035 246076-7
50. หาดบางแสน จังหวัดชลบุรี
ภาพจาก CPL1980 / shutterstock.com
หาดบางแสน สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวไทยที่มีชื่อเสียงมาช้านาน มีถนนตัดเลียบชายหาด ซึ่งเรียงรายไปด้วยร้านอาหารและที่พัก มีเก้าอี้ผ้าใบสำหรับพักผ่อนรับประทานอาหารใต้ร่มเงาทิวมะพร้าว มีห่วงยางว่ายน้ำ บาบาน่าโบ๊ต จักรยานให้เช่า และห้องอาบน้ำจืด
หลังจากแวะที่เที่ยวและลงเล่นน้ำทะเลกันเกือบตลอดทั้งวัน ก่อนกลับอย่าลืมหาอะไรอร่อย ๆ กินกันก่อนนะ เพราะบางแสนเป็นอีกหนึ่งที่ที่อาหารการกินสมบูรณ์มาก ๆ บริเวณถนนบางแสนล่าง แถว ๆ หาดวอนนภา มีทั้งร้านอาหาร ร้านนมเก๋ ๆ อยู่เต็มไปหมด ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น ยังมีร้านอาหารให้เลือกหลากหลาย จึงไม่ต้องแปลกใจที่ทุกวันหยุดจะคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยว เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ สามารถมาเที่ยวแบบเช้าไป-เย็นกลับได้สบาย ๆ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
thai.tourismthailand.org, innnews.co.th, lopburi.doae.go.th newsthe1 gclubtheone traveloneplus
0 ความคิดเห็น: