สองบุญ...แห่งแก่งกระจาน
เส้นทางสายหัวหิน-ป่าละอู ช่วงตั้งแต่ลงเขาตายาย ที่มีศาลบนเนินสูงสุด ผ่านหน่วยพิทักษ์ฯ เขาหุบเต่า ไปจนถึงบ้านห้วยสัตว์ใหญ่ เป็นช่วงที่สองฝั่งทางเป็นพื้นที่ป่าของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานที่เชื่อมต่อกัน ไม่มีชุมชนมาขวางกั้น และเป็นที่รู้กันของคนเดินทางว่า พื้นที่ช่วงนี้คือ พื้นที่ที่เราอาจจะเจอเจ้าถิ่น ที่คนเดินทางมักจะเจอออกมาเดินอวดโฉมเดินเล่นริมถนนในพื้นที่ดังกล่าวอยู่บ่อยๆ
บุญช่วย-บุญมี ช้างหนุ่มแห่งป่าแก่งกระจาน
บุญช่วยและบุญมี เป็นช้างวัยรุ่นอายุไล่ๆกันราว 30 ปี ที่มักจะเดินหากินตามถนนในช่วงเวลาตั้งแต่ 5 โมงเย็นไปจนถึงกลางคืน สำหรับคนที่อยู่ใน ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อาจจะเป็นความเคยชินที่พบเจอช้างทั้งสองตัว เปรียบเหมือนสมาชิกในชุมชน แต่สำหรับคนต่างถิ่นที่มาจากที่อื่นโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่จะเข้าไปเที่ยวน้ำตกป่าละอู หรือน้ำตกแพรกตะคร้อ(ซึ่งเข้าทางด้านนี้ก็ได้) การพบเจอช้างป่าบนถนนจึงเป็นเรื่องที่น่าตื่นต้นเป็นอย่างยิ่ง
บุญช่วยและบุญมี จะมีพฤติกรรมคล้ายๆ กันคือ ในช่วงกลางวันก็จะอยู่ในป่าหาโอกาสเจอตัวยาก แต่พอตกเย็น ก็มักจะออกมาหากินกันริมถนน เหมือนย้ายที่กินมื้อเย็น แล้วพฤติกรรมการกินเขามักจะเริ่มจากตั้งแต่ลงเขาตายาย แล้วกินไล่มาเรื่อยๆ จนใกล้หน่วยฯเขาหุบเต่า แล้วมักจะแวะมาดื่มน้ำในแทงค์เหล็กๆของหน่วยฯเขาหุบเต่า แล้วก็จะป้วนเปี้ยนแถวๆหน่วย บางทีถ้าได้กลิ่นอาหาร กล้วย ขนุน ที่เจ้าหน้าที่ซื้อมา สองบุญก็อาจถือวิสาสะ เอางวงวักล้วงโดยไม่สนใจว่าฝาบ้านหรือหนังคาจะพังแต่อย่างได สิ่งที่เจ้าของบ้านมาเห็น และทำได้ ก็คือการบ่นว่า ”..อีกแล้วนะบุญช่วย-บุญมี”
บางครั้ง ตลาดนัดบ้านหัวสัตว์ใหญ่ ก็จะมีลูกค้ารายใหญ่ คือบุญช่วย-บุญมีและผองเพื่อน เดินเฉียดกรายไปใกล้ตลาดนัด ทำราวกับว่าจะมาจ่ายกับข้าว แต่เพียงเดินเฉียดใกล้ ก็เลยเอาแตกตื่น เดือดร้อนเจ้าหน้าที่ต้องมาไล่ให้ไปทางอื่น
ชาวตำบลห้วยสัตว์ใหญ่มีอาชีพทำไร่ ในช่วงผลผลิตออก ก็มักขนพืชไร่ ออกไปขายเอง บางครั้งขายไม่มด หรือไม่ได้ราคม ก็มักจะคิดถึงช้าง เอากลับมาแล้วทิ้งไว้ข้างทางให้ช้างมากิน นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ดึงดูดให้ช้างมักออกมาหากินริมถนน หรือบางคนมีการบนบานไว้ก็มาแก้บน เคยมีคนขนมะละกอ กล้วย อ้อย มาทิ้งไว้ข้างทางในตอนกลางคืน เพราะพฤติกรรมการแก้บนมาแล้ว แต่ช่างที่ป่าละอูยังไม่ค่อยมีพฤติกรรมตั้งด่านลอย ฉกฉวยพืชผลทางการเกษตร จากรถพ่อค้าแม่ค้า ไม่เหมือนทางด้านอ่างฤาไนยที่มีพฤติกรรมนี้บ่อยๆ เพราะแบบนี้ คนบ้านสัตว์ใหญ่จึงเห็นว่า ช้าง คือสมาชิกในชุมชนของเขา
แต่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน คงปล่อยให้ช้างเดนบนถนนอย่างอิสระไม่ได้ เพราะป่าช่วงนี้แม้จะเป็นพื้นที่ของอุทยานฯ แต่ด้านในมีชุมชนขนาดใหญ่ รวมทั้งมีการสัญจรตลอดเวลา คนที่คุ้นชินก็อาจจะปฏิบัติตัวถูก แต่สำหรับคนที่มาจากที่อื่นอาจจะมีการทำตัวที่ไม่ถูกต้องและอาจจะเป็นอันตรายทั้งคนและช้างได้ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จึงมีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังช้างป่า โดยทำงานกันตลอด 24 ชม. ร่วมกับทหารที่ยู่ในพื้นที่ คอยรับแจ้งเหตุว่ามีช้างออกมาบนถนน และเป็นความคุ้นชินกันที่ทั้งบุญช่วยและบุญมี และเจ้าหน้าที่อุทยานแก่งกระจาน ที่จะต้องใช้รถยนต์ตรวจการณ์คันเก่า และเจ้าหน้าที่เสียงเข้มๆ ตะโกนไล่ให้สองบุญเข้าป่า สองบุญถึงจะฟัง หากขืนเปลี่ยนรถหรือเปลี่ยนเจ้าหน้าที่คนใหม่ สองบุญก็จะดื้อดึงไม่ยอมเข้าป่าซะงั้น
แม้ช้างบุญมี บุญช่วยจะเป็นช้างคู่หู ที่หากินด้วยกัน แต่บางวันก็ทะเลาะกันบ้าง แล้วที่ไหนจะมาเปิดโงเท่าบนถนน การชนกันจึงเกิดขึ้นบนถนนเส้นเดิม ก่นจะเกรากันไป แล้ววันหลังก็มาเดินหากนด้วยกันอีก เหมือนเด็กๆชกต่อยกัน
แม้ช้างสองบุญ จะไม่เคยทำร้ายใคร แต่จ้าหน้าที่อุทยานฯก็ต้องเฝ้าระวังไม่ให้เกิดอันตรายกับคนที่สัญจรไปมาได้ อีกทั้งในบางครั้ง ก็มีช้างอื่นออกมานอกจากบุญช่วยบุญมีอีกด้วย
เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานฝากบอกผู้ที่สัญจรใช้ถนนเส้นนี้ว่า อย่าเอาผาหารช้างมาทิ้งไว้ข้างทางเพราะจะเป็นการดึงดูดช้างให้ออกมาบนถนน ซึ่งจะเป็นอันตรายทั้งช้างและคน ที่มีข่าวว่ามีรถยนต์ชนช้างจนรถยนต์เสียหายและช้างก็บาดเจ็บ หนทางแก้ไขคือการไปสร้างแหล่งอาหาร แหล่งน้ำ ไว้ในป่าลึกๆ เพื่อไม่ให้ช้างออกมาริมถนน
นักท่องเที่ยวที่อยากเห็นการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการไล่ช้างสองบุญ สามารถมาติดตามจ้าหน้าที่ไปดูได้ ในตอนเย็นๆของทุกวันที่หน่วยฯเขาหุบเต่า จะให้บรรยากาศที่มากกว่าการดูช้างป่า เหมือนที่อื่นๆ
ไม่ว่าจะมีอะไรเกดขึ้นกับช้างในที่ใดๆ ทั้งบุญช่วยและบุญมี ก็ยังคือขวัญใจของชาวห้วยสัตว์ใหญ่ปีกนาน
สมาชิกตัวโตแห่งตำบลห้วยสัตว์ใหญ่....
0 ความคิดเห็น: